ปัญหาผมมันเป็นปัญหาน่ากังวลใจที่หลายคนอาจจะกำลังประสบพบเจออยู่ ซึ่งผมมันทำให้หนังศีรษะและเส้นผมของเราดูเหมือนสกปรก หรือเหมือนไม่ได้สระผม ซึ่งอาจทำให้บางครั้งเสียความมั่นใจ ได้ด้วยเช่นกัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากร่างกายของเราอยู่ในสภาวะของความเครียด ฮอร์โมนที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล ( Cortisol ) ก็จะถูกปล่อยออกมาและเมื่อฮอร์โมนคอร์ติซอลถูกปล่อยออกมามากขึ้นก็จะไปกระตุ้นต่อมไขมัน ที่บริเวณหนังศีรษะ หนังศีรษะของเราเมื่อได้รับการกระตุ้นทำให้ซีบัมผลิตน้ำมันออกมา แต่ถ้าผลิตออกมาในปริมาณ ที่เยอะเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการหนังศีรษะมันได้  และมีกลิ่นง่าย ซึ่งปัญหาจุดเริ่มต้นของความมันที่ผม เกิดจากหนังศีรษะของเราที่ผลิตน้ำมันมามากเกินความพอดีนั้นเอง 

นอกจากนี้สาเหตุของผมมันยังเกิดมาจาก สภาพอากาศที่ร้อนจัด , อากาศที่มีความชื้นสูง รวมถึงการปล่อยให้หนังศีรษะของเราแห้งเกินไปไม่มีการบำรุง หรือการที่เราใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูสระผม ย้อมสีผมที่มีสารเคมีทำร้ายเส้นผม และก็การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไป ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมมันเหมือนกัน สุดท้ายถ้าไม่ได้เกิดมาจากสาเหตุข้างต้นที่กล่าวไปก็อาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน และวิธีรักษาผมมันมีด้วยกันหลายวิธี แต่วิธีที่ดีและตอบโจทย์ก็คือการใช้ธรรมชาติรักษา โดยมีวิธีดังต่อไปนี้ 

การรักษาผมมันด้วยวิธีทำธรรมชาติ

ลดอาหารมัน

การรับประทานอาหารก็เป็นวิธีรักษาที่สำคัญที่เป็นการดูแลจากภายในสู่ภายนอก เราควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันและงดของทอด อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ ที่มีไขมันและน้ำมันเยอะ ที่สำคัญต่อหนึ่งมื้อที่รับประทานไปนั้นมีแคลลอรี่สูงมาก นอกจากทำให้เกิดการกระตุ้นน้ำมันจากรูขุมขนที่หนังศีรษะจนเป็นปัญหาผมมันแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอีกด้วย

เปลี่ยนปลอกหมอนทุกสัปดาห์

หมอนที่เรานอนในทุกวันเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และความมัน เพราะต้องรองรับศีรษะของเราอยู่ทุกวัน หากวันไหนไม่ได้สระผมหรือทำความสะอาดก่อน เชื้อโรคและความมันก็จะลงไปสะสมในหมอนของเราได้ ฉะนั้นเราควรเปลี่ยนปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ก็จะสามารถช่วยลดปัญหาผมมันและสิ่งสกปรกเกาะเส้นผมและหนังศีรษะได้แล้ว

เลี่ยงการใช้มือสัมผัสผมบ่อยเกินไป

ต้องบอกเลยว่ามือของเรานั้นได้สัมผัสหยิบจับสิ่งของมากมาย ซึ่งแต่ละอย่างก็มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกและเราก็มาสัมผัสหรือเสยผมของเราต่อ ทำให้สิ่งสกปรกบนมือของเราเป็นตัวสร้างน้ำมันบนศีรษะได้ดีเลยทีเดียว เพราะศีรษะจะถูกกระตุ้นให้ขับไขมันออกมาเคลือบหนังศีรษะ และรวมถึงการใช้หวี หวีผมบ่อยจนเกินไป ทำให้เราต้องสัมผัสผมอยู่บ่อยๆ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะจัดทรงผม

เลี่ยงสิ่งกระตุ้นจากภายนอก

เลี่ยงการกระตุ้นจากภายนอก อย่างการหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์ร้อนในการเป่าผม หรือเครื่องหนีบผมที่ใช้ความร้อนสูง รวมถึงการอบไอน้ำที่บ่อยเกินไปจะยิ่งทำให้รูขูมขนที่บริเวณหนังศีรษะเปิดกว้าง และพวก wax หรือครีมจัดแต่งทรงที่มีสารเคมี ยิ่งเป็นตัวเพิ่มความมันให้กับเส้นผมและหนังศีรษะของเราอย่างมาก

งดสระผมด้วยน้ำอุ่น

สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติดีที่สุด เพราะเมื่อเราสระผมด้วยน้ำอุ่นไปเรื่อยๆ จะยิ่งทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผมและหนังศีรษะของเรา เสียสมดุลและแห้ง ทำให้ต่อมไขมันของเราจะเร่งผลิตไขมันออกมาเพื่อทดแทน แต่อาจจะผลิตออกมามากเกิน ไม่ก็เกิดปัญหาผมมันขึ้นได้  ฉะนั้นงดใช้น้ำอุ่นในการสระผม 

เลือกแชมพูออร์แกนิคให้เหมาะกับหนังศีรษะ

การเลือกใช้แชมพูที่มีคุณภาพและเหมาะกับหนังศีรษะของเรานั้นจะช่วยให้การรักษาที่ได้ผลดีมาก เพราะนอกจากหนังศีรษะเราจะถูกทำความสะอาดชำระล้างจากมลภาวะสิ่งสกปรกต่างๆ แล้วยังเป็นการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะไปในตัว แล้วยิ่งถ้าเราใช้แชมพูที่สกัดจากธรรมชาติหรือแชมพูแบบออร์แกนิค ก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องสารเคมีตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะ อย่างผลิตภัณฑ์ของ “โอเวย์” Sebum balance hair bath ที่เป็นผลิตภัณฑ์แชมพูสระผมแบบออร์แกนิคที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมมัน เป็นพิเศษ โดยตัวแชมพูนั้นมีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติปลูกจากพืชไบโอไดนามิคที่จะช่วยดูแลรักษาบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะของเราด้วยกันถึง 3 ชนิด คือ 1. สารสกัดจากยูเฟรเซียออร์แกนิค ที่จะช่วยในเรื่องของการอ่อนตัวของเส้นผมทำให้ชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิวที่หนังศีรษะและผิวบองบาง,  2. สารสกัดจากไม้สัก เป็นยาอายุรเวทที่ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างเส้นผมและต้านเชื้อแบคทีเรีย,  3. สารสกัดไบโอนามิคเซจ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนระบบการสร้างรากผมใหม่ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ทุกสารสกัดจะทำหน้าทีและช่วยควบคุมและลดความมันตั้งแต่บริเวณหนังศีรษะ หรือโคนเส้นผมให้กลับมาเป็นปกติ และการทำความสะอาดที่ล้ำลึกมากกว่าแชมพธรรมทั่วไป นอกจากจะเปลี่ยนมาใช้แชมพูแบบออร์แกนิคกันแล้วลองเปลี่ยนจากแชมพูที่เป็นเนื้อครีม มาใช้เป็นแชมพูเนื้อใส เพราะจะไม่มีตัว Mineral Oil ที่จะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะของเราเหนียวเหนอะหนะ ผมมัน และอาจเกิดการอุดตันไม่สามารถซึมเข้าสู่เกล็ดผมได้ ฉะนั้นก็ลองเลือกผลิตที่เหมาะกับเส้นผมและหนังศีรษะของเรา